1

JusThat

3 คดีเล็ก ๆ ที่ฟ้องศาลได้ด้วยตัวเอง

เทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้นจะติดต่อกับใครก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป รวมถึงการขอยืมเงินกันก็เป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม ไม่ต้องออกจากบ้านไปเจอหน้า แค่แชทไปหาก็ขอยืมเงินเพื่อนได้แล้ว หรือซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ก็ไม่ต้องไปถึงห้างหรือร้านค้าที่ต้องการ เพียงเข้าแอพช้อปปิ้งก็สั่งของที่ต้องการได้เลย แม้กระทั่งการจ้างให้ทำสิ่งต่าง ๆ เช่น จ้างคนให้ตัดต่อคลิปให้ จ้างคนออกแบบโลโก้สินค้า จ้างคนมาทำความสะอาดบ้านก็สามารถหาคนทำงานให้ผ่านทางโซเชี่ยลได้ เช่น กลุ่มเฟซบุ้คต่าง ๆ เว็บไซต์ฟรีแลนซ์ หรือแอพที่ให้บริการฟรีแลนซ์ต่าง ๆ เราก็สามรถเข้าไปหาคนทำงานให้ได้อย่างง่ายดาย

แต่สิ่งที่ไม่ง่ายอาจเกิดขึ้นหลังจากนั้น เพราะให้เงินไปแล้วทำไมไม่ได้สิ่งที่เราต้องการ ? เกิดการผิดสัญญา อีกฝ่ายผิดนัดไม่ยอมทำตามสัญญาจะทำยังไงได้บ้าง ? ปัญหาใหญ่เกิดขึ้นแล้วสิ แบบนี้จะทำอะไรได้บ้าง…

ทำให้เราได้รับความเสียหาย แต่ยอดเงินที่จ่ายไปก็ไม่มากนัก จะแจ้งความดำเนินก็ไม่ได้เพราะเป็นการผิดสัญญาทางแพ่ง ไม่ใช่การฉ้อโกง หรือจะจ้างทนายฟ้องก็อาจไม่คุ้มกับเงินที่จะได้คืนมา แต่ก็ยังมีความหวังที่จะได้เงินคืนมาอยู่นะ เพราะถึงจะเป็นคดีเล็ก ๆ แต่เราก็สามารถฟ้องศาลได้ด้วยตัวเอง

ฟ้องคดีด้วยตัวเอง กับ JusThat

เตรียมหลักฐานให้พร้อมก่อนเริ่มฟ้อง

เมื่อต้องฟ้องศาลด้วยตัวเองหลายคนอาจกลัวกับสิ่งที่ต้องเจอและเกิดคำถามขึ้นมากมาย ฟ้องไปแล้วจะชนะหรือเปล่า ไม่มีทนายแล้วจะสู้อีกฝ่ายได้ไหม ดังนั้นการเตรียมหลักฐานให้พร้อมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เช่น 

  • แชทการพูดคุยตกลงกัน
  • หนังสือสัญญา
  • หลักฐานการส่งมอบ
  • คลิปวิดีโอ
  • หรือพยานวัตถุอื่น ๆ ที่มีอยู่
เพราะคดีแพ่งเป็นคดีที่ตัดสินแพ้ชนะตามพยานเอกสารและพยานวัตถุเป็นหลัก ส่วนพยานบุคคลจะเป็นพยานที่มีความสำคัญรองลงมา เมื่อเตรียมหลักฐานพร้อมแล้วก็ร่างคำฟ้องและคำขอต่าง ๆ ให้เรียบร้อยเพื่อยื่นฟ้องศาลให้เรียบร้อย

ฟ้องคดีแพ่งไม่มีทนายได้ด้วยตัวเอง

การฟ้องศาลไม่มีการกำหนดเอาไว้ว่าจะต้องมีทนายความเท่านั้นถึงจะฟ้องร้องดำเนินกันได้ แต่ในเรื่องของข้อกฎหมาย และขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆ ที่คนทั่วไปอาจไม่คุ้นชินทำให้ต้องมีทนายความช่วยดูแลในเรื่องของการดำเนินคดี การเบิกความ การให้การชั้นศาล แต่ถ้าเราอยากดำเนินคดีด้วยตัวเองก็สามารถทำได้เหมือนกัน และมีการแบ่งเขตอำนาจศาลเอาไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการฟ้องร้องของประชาชน ซึ่งคดีที่ฟ้องเรียกเอาเงินจากอีกฝ่าย ต้องยื่นฟ้องต่อศาลในพื้นที่ที่เกิดเรื่องขึ้นหรือตามที่อยู่ของจำเลย

ศาลนัดไกล่เกลี่ยแล้วไม่ไปได้หรือเปล่า

เมื่อศาลรับฟ้องแล้วจะมีการกำหนดวันนัดให้คู่ความไปศาลตามวันเวลาที่นัดไว้ และเราเร่งวันนัดไม่ได้เพราะวันนัดขึ้นศาลจะเป็นไปตามลำดับคดีของแต่ละศาล ศาลไหนมีคดีมากอาจต้องรอหน่อย ถ้าคดีน้อยก็รอไม่นาน อาจได้นัดแรกภายใน 1-2 เดือน หรืออาจรอถึง 4 เดือน 

แต่ถ้าไปศาลตามวันนัดไม่ได้ ต้องแจ้งขอเลื่อนนัดไปที่ศาลและต้องให้ศาลอนุญาตด้วยนะ เพราะถ้าขาดนัดจะถือว่าสละสิทธิ์ในการดำเนินคดี ศาลจะยกฟ้องและจำหน่ายคดีออกจากระบบทำให้แพ้คดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 193 ทวิและมาตรา 200 วรรค 2

แต่หลายคนอาจยังกลัวการไปศาลด้วยตัวเอง และมีคำถามขึ้นศาลน่ากลัวไหม ต้องรอศาลตัดสินนานหรือเปล่า ก็ต้องบอกเลยว่าการขึ้นศาลไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว โดยเฉพาะคดีแพ่งที่จะมีการนัดไกล่เกลี่ยกันก่อน โดยจะมีคนกลางที่ไม่ใช่ผู้พิพากษาทำหน้าที่เป็นผู้ประนีประนอม เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายหาข้อตกลงกัน 

ถ้าตกลงกันได้ตั้งแต่วันไกล่เกลี่ยในการขึ้นศาลครั้งแรกของคดีแพ่งก็จะมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ตกลงจ่ายหนี้หรือค่าเสียที่เกิดขึ้นให้กัน โดยศาลจะดูว่าสัญญาประนียอมความที่ทำขึ้นขัดต่อกฎหมายไหม ถ้าไม่ขัดต่อกฎหมายก็จะมีการพิพากษารับรองสัญญาดังกล่าวให้ เรียกว่า พิพากษาตามยอม 

ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมทำตามที่ตกลงไว้ก็จะถูกดำเนินการบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์สินที่มีอยู่ด้วย แต่ถ้าตกลงกันในวันนัดไกล่เกลี่ยไม่ได้ก็ต้องมีการนัดกำหนดประเด็นข้อพิพาท อาจมีการนัดตรวจพยานหลักฐาน แล้วจะมีการนัดสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความจริงกันต่อไป  

คดีเล็กขึ้นศาลด้วยตัวเอง

สำหรับคดีที่มีทุนทรัพย์ในการฟ้องร้องกันไม่เกิน 300,000 บาท จะจัดเป็นคดีมโนสาเร่ เป็นคดีที่ไม่ค่อยมีข้อยุ่งยาก และด้วยความเป็นคดีมโนสาเร่นี่เองจึงมีข้อกำหนดให้ศาลมีอำนาจเรียกพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่ศาลเห็นว่าจะทำให้เกิดความยุติธรรมนอกเหนือจากพยานหลักฐานที่มีการยื่นเข้าไปได้ 

และในการสืบหาความจริงศาลจะมีอำนาจในการถามก่อนที่จะให้ฝ่ายตรงข้ามหรือทนายความถามเพิ่มเติม รวมถึงมีอำนาจถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับคดีในส่วนที่ไม่มีฝ่ายไหนยกขึ้นอ้างได้ด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 193 จัตวา

ค่าใช้จ่ายฟ้องคดีแพ่ง

การดำเนินคดีในศาลจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นมากน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ต้องการฟ้องเรียกมา เช่น ค่าขึ้นศาล ค่านำหมาย ค่าเดินทางและค่าที่พักของพยานหมาย ส่วนของคดีมโนสาเร่ จะเสียขึ้นศาลไม่เกิน 1,000 บาท

  • ทุนทรัพย์ที่ฟ้องไม่เกิน 300,000 บาท ไม่เกิน 1,000 บาท
  • ทุนทรัพย์ที่ฟ้องไม่เกิน 50 ล้านบาท ร้อยละ 2 บาท (หรือ 2%) แต่ไม่เกิน 200,000 บาท ส่วนที่เกิน 50 ล้านบาท ร้อยละ 0.1 (หรือ 0.1%)

รู้หรือไม่?! ยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรงได้ จะทำให้เรื่องถึงชั้นศาลได้เร็วขึ้น
JusThat ค่าบริการปรึกษาเริ่มต้น 1,500 บาท บริการส่งฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา

  1. แอดไลน์ @justhatapp
  2. เริ่มต้นทำแบบประเมิน
  3. หากต้องการ ส่งฟ้องได้ทันที
Line-Chat-Portrait

รู้ไว้ใช่ว่า เงินประกันชีวิตไม่ใช่มรดก ไม่ตกทอดสู่ทายาท

รู้ไว้ใช่ว่า เงินประกันชีวิตไม่ใช่มรดก ไม่ตกทอดสู่ทายาท ตั้งแต่คลอดออกมาและอยู่รอดเป็นทารก คนคนนั้นจะมีสภาพเป็นบุคคล เมื่อมีสภาพบุคคลแล้วจะมีกองทรัพย์

Read More »

พยานหมาย ทำอย่างไรเมื่อได้รับหมายให้ไปเป็นพยานศาล

พยานหมาย ทำอย่างไรเมื่อได้รับหมายให้ไปเป็นพยานศาล อย่าเพิ่งตกใจ ถ้าคุณได้รับหมายเรียกให้ไปเป็นพยานศาล JusThat ได้นำข้อมูล หลักการปฏิบัติตัวในฐานะพยานศ

Read More »

รับช่วงสิทธิ คืออะไร

รับช่วงสิทธิ คืออะไร รับช่วงสิทธิ คืออะไร มีความสัมพันระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้อย่างไร JusThat จะพาไปหาคำตอบและทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้เลย

Read More »