1

JusThat

เงินดาวน์บ้าน คอนโด
กู้ไม่ผ่านห้ามริบเงินดาวน์

อยากมีบ้าน มีคอนโดเป็นของตัวเอง แต่เก็บเงินมาทั้งชีวิตก็ยังไม่พอ ต้องอาศัยการกู้จากธนาคารซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนมีฝันอยากมีที่อยู่อาศัยดี ๆ กว่าจะมีบ้านหรือคอนโดสักหลังก็ต้องอาศัยดูจากโครงการหลาย ๆ โครงการก่อนจะตัดสินใจทำสัญญา แต่บางครั้งความผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้ ทำสัญญา โอนเงินจองเรียบร้อย แต่กู้ไม่ผ่าน โดนเจ้าของโครงการริบทั้งเงินจอง แถมเงินดาวน์ไปอีก ซึ่งหลาย ๆ คนยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า “กู้บ้าน คอนโดไม่ผ่าน ห้ามริบเงินดาวน์”

เงินดาวน์บ้าน คอนโด
แบบไหนที่โครงการริบได้

“เงินดาวน์ ไม่ใช่ เงินมัดจำ”

ก่อนจะมีบ้านและคอนโดเป็นของตัวเองก็ต้องเริ่มจากการไปสำรวจโครงการที่ตนเองสนใจ
เมื่อพอใจแล้วจึงยื่นขอกู้เพื่อนำเงินมาดาวน์ที่อยู่อาศัย ซึ่งจะมีเงินสามส่วนที่มาเกี่ยวข้อง

  1. เงินจอง – เงินที่จ่ายให้กับโครงการก่อนเริ่มทำ “สัญญาจะซื้อจะขาย” เพื่อจองสิทธิ์ของเราในการซื้อ
  2. เงินทำสัญญา – เงินที่จ่ายให้กับโครงการเป็นค่ามัดจำ ว่าเราจะทำตามสัญญาจะซื้อจะขาย
  3. เงินดาวน์ – เงินที่ชำระหลังวันทำสัญญา เพื่อแบ่งชำระบางส่วนไปก่อน แล้วทำผ่อนจ่ายที่เหลือทีหลัง

*สัญญาจะซื้อจะขาย จะเป็นการตกลงว่าจะซื้อหรือจะขาย ยังไม่ใช่สัญญาซื้อขาย
ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ แต่จะกำหนดระยะเวลาในการโอนแทน

โครงการจะไม่มีสิทธิ์ ริบหรือยึดเงินดาวน์ของเรา ถ้าหากเราเปลี่ยนใจไม่ซื้อ (หรือกู้ไม่ผ่าน)
แต่โครงการจะยึดเงินจองและเงินทำสัญญาได้ เพราะสองส่วนนี้ถือเป็น “เงินมัดจำ”

****ข้อยกเว้นที่ควรระวัง 

หากในข้อสัญญามีการเขียนไว้ทำนองว่า “ถ้าผู้ซื้อผิดสัญญา ให้ผู้ขายมีสิทธิ์ริบเงินดาวน์”
เงินดาวน์จะกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า เบี้ยปรับ ทันที ซึ่งโครงการจะสามารถริบเอาไว้ได้

ถ้าโครงการผิดสัญญาเอง ฟ้องเรียกเงินได้ทั้งมัดจำ และเงินดาวน์ เช่น ตกลงกันไว้ว่าโครงการจะสร้างเสร็จปลายปี แต่เมื่อถึงเวลาไม่เสร็จตามที่ตกลง หรือ แปลนบ้านหรือห้องไม่เหมือนกับที่เคยให้ดูในโบรชัวร์ หรือ ส่วนกลางไม่ครบตามที่โฆษณา แบบนี้ผู้ซื้อสามารถยกเลิกสัญญาและขอคืนเงินมัดจำและเงินดาวน์ทั้งหมดได้ และโครงการอาจต้องจ่ายค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ในสัญญาจะซื้อจะขายอีกด้วย

เงินดาวน์บ้าน คอนโด
ฟ้องยังไงให้ได้คืน

ถ้าหากถูกริบเงินดาว์ ทำยังไงได้บ้าง ไม่ว่าจะกู้ไม่ผ่านหรือเหตุผลอื่น เมื่อเราไม่ต้องการที่จะซื้อคอนโดหรือบ้านนี้ต่อไปแล้ว
เราสามารถขอเงินดาวน์คืนจากทางโครงการได้ ตราบใดที่ในสัญญาไม่ได้ระบุไว้ว่าให้ทางโครงการ “ริบเงินดาวน์”
หรือ “ปรับเงินที่เคยชำระมาทั้งหมดเป็นค่าเสียหาย”

กรณีที่โครงการผิดสัญญา เช่น สร้างไม่เสร็จตามกำหนด สร้างไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้
ร้องเรียนไปที่ สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค) โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน
และจะนัดเราไกล่เกลี่ยกับทางโครงการก่อน หากคุยแล้วไม่รู้เรื่องจะยื่นฟ้องแทนเรา

กรณีที่เราผิดสัญญาแม้เพียงเล็กน้อย สคบ. จะไม่สามารถช่วยเราได้เลย เราต้องขอให้ศาลช่วยพิจารณาจากหลักฐาน
เพื่อเรียกเงินดาวน์คืนจากทางโครงการจะเป็นทางออกที่รวดเร็วที่สุด

รู้หรือไม่?! คดีแบบนี้ฟ้องศาลด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องจ้างทนาย!
JusThat บริการฟ้องด้วยตัวเอง ค่าบริการปรึกษาเริ่มต้น 1,500 บาท ประหยัดค่าจ้างทนายความได้หลายหมื่นบาท

  1. แอดไลน์ @justhatapp
  2. เช็คโอกาสชนะและค่าใช้จ่าย
  3. หากต้องการ ส่งฟ้องได้ทันที
Line-Chat-Portrait

เงินดาวน์บ้าน คอนโด
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 377 ระบุว่า “เมื่อเข้าทำสัญญา ถ้าได้ให้สิ่งใดไว้เป็นมัดจำ ท่านให้ถือว่าการที่ให้มัดจำนั้นย่อมเป็นพยานหลักฐานว่าสัญญานั้นได้ทำกันขึ้นแล้ว อนึ่ง มัดจำนี้ย่อมเป็นประกันการที่จะปฏิบัติตามสัญญานั้นด้วย”

ถ้าเก็บเกินจากนี้ถือว่า “ผิดสัญญาจะซื้อจะขาย” ในคดีแพ่งมีอายุความ 10 ปี

JusThat – รู้โอกาสแพ้ชนะ
ฟ้องแล้วคุ้มหรือไม่? ภายใน 5 นาที

1

Bangkok, Thailand 
Line @justhatapp