รู้ไว้ใช่ว่า เงินประกันชีวิตไม่ใช่มรดก ไม่ตกทอดสู่ทายาท
รู้ไว้ใช่ว่า เงินประกันชีวิตไม่ใช่มรดก ไม่ตกทอดสู่ทายาท ตั้งแต่คลอดออกมาและอยู่รอดเป็นทารก คนคนนั้นจะมีสภาพเป็นบุคคล เมื่อมีสภาพบุคคลแล้วจะมีกองทรัพย์
ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เรื่อง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2566 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา มีการเพิ่มเติมมาตรา 23/1 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 เข้าไป โดยให้สิทธินายจ้างและลูกจ้างสามารถตกลงกันให้ลูกจ้างนำงานกลับไปทำที่บ้านได้ และรับรองสิทธิของลูกจ้างที่จะปฏิเสธการติดต่อกับนายจ้าง หัวหน้างาน หรือผู้ตรวจงาน หลังเลิกงาน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2566
บทความนี้ JusThat ชวนทุกคนมาอ่านสาระสำคัญของกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่แก้ไขเพิ่มเติมใหม่ มีอะไรบ้าง อ่านต่อด้านล่างได้เลย
มาตรา 23/1 วรรค 1 เป็นการกำหนดให้นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันให้ลูกจ้างนำงานกลับไปทำที่บ้าน หรือที่พักอาศัย หรือทำงานผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศจากที่ไหนก็ได้ ( Right to work from home )โดยงานนั้นต้องเป็นงานที่สามารถทำนอกสำนักงาน หรือนอกสถานประกอบกิจการของนายจ้างได้
แต่ถ้าเป็นงานที่จำเป็นต้องทำในสำนักงาน หรือสถานประกอบการเท่านั้น เช่น งานด้านการผลิตอาหาร พนักงานเสิร์ฟ พนักงานทำความสะอาด พนักงานต้อนรับ แคชเชียร์ งานโรงงาน จะไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตรานี้ แปลว่า นายจ้างยังสามารถกำหนดสถานที่ทำงานให้ลูกจ้างไปทำงานในสำนักงาน หรือสถานประกอบกิจการได้
สำหรับการตกลงกันให้ลูกจ้างนำงานกลับไปทำที่บ้าน ที่พักอาศัย หรือสถานที่อื่นใด นายจ้างจะต้องเป็นผู้ทำข้อตกลงเป็นหนังสือ(ทำเป็นเอกสารบนกระดาษ) หรือทำเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ลูกจ้างและนายจ้างสามารถเข้าถึงได้ และนำกลับมาใช้ได้โดยความหมายของเนื้อหาไม่เปลี่ยนแปลง เช่น ทำเป็นเอกสารไฟล์ PDF. และอัปโหลดไว้บนคลาวด์ของที่ทำงาน หรือส่งผ่านอีเมล ผ่านไลน์ให้อีกฝ่าย เป็นต้น (มาตรา 23/1 วรรค 2)
ซึ่งข้อตกลงที่ทำขึ้น อาจมีรายละเอียดตามนี้
และนอกจากสิทธิที่ลูกจ้างสามารถทำงานจากที่บ้านได้แล้ว การแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 23/1 นี้ยังกำหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิที่จะปฏิเสธการติดต่อกับนายจ้าง หัวหน้างาน หรือผู้ตรวจงาน หลังจากเลิกงานแล้วด้วย ( Right to disconnect )
ซึ่งโดยปกติก็ไม่ควรมีการคุยเรื่องงาน สั่งงานเพิ่มเติมหลังเลิกงานแล้ว เพราะนายจ้างจ่ายเงินเพื่อซื้อเวลา แรงงาน และความสามารถของลูกจ้างในเวลางานเท่านั้น นอกเวลางานจึงเป็นเวลาส่วนตัวที่ลูกจ้างจะไปทำอะไรก็ได้ตามความต้องการของตนเอง แต่ในกรณีที่มีการทำงานจากที่บ้าน หรือที่อื่น ๆ อาจทำให้นายจ้างบางส่วนไม่เคารพเวลาของลูกจ้างแล้วสั่งงาน ตามงาน คุยเรื่องงานนอกเวลา ซึ่งอาจเป็นการไปรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวันของลูกจ้างได้
ในมาตรา 23/1 วรรค 3 จึงกำหนดให้ลูกจ้างสามารถปฏิเสธการติดต่อกับที่ทำงานหลังเลิกงานได้ เรียกได้ว่า ถ้าไม่เคารพเวลากันก็ต้องมีกฎหมายออกมาควบคุม แต่ถ้าลูกจ้างได้เซ็นหนังสือยินยอมให้นายจ้างติดต่อหลังเลิกงานได้ กรณีนี้ลูกจ้างจะอ้างสิทธิห้ามไม่ให้นายจ้างติดต่อหลังเลิกงานไม่ได้นะ
และสุดท้ายในมาตรา 23/1 วรรค 4 มีการกำหนดให้ลูกจ้างที่ทำงานจากที่บ้าน ที่พักอาศัย หรือทำงานผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศจากที่อื่น ๆ มีสิทธิเช่นเดียวกับลูกจ้างที่ทำงานในสำนักงาน หรือในสถานประกอบกิจการของนายจ้าง
รู้หรือไม่?! คดีแบบนี้ฟ้องศาลด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องจ้างทนาย!
JusThat บริการฟ้องด้วยตัวเอง
ค่าบริการปรึกษาเริ่มต้น 1,500 บาท
ประหยัดค่าทนายความได้หลายหมื่นบาท
รู้ไว้ใช่ว่า เงินประกันชีวิตไม่ใช่มรดก ไม่ตกทอดสู่ทายาท ตั้งแต่คลอดออกมาและอยู่รอดเป็นทารก คนคนนั้นจะมีสภาพเป็นบุคคล เมื่อมีสภาพบุคคลแล้วจะมีกองทรัพย์
พยานหมาย ทำอย่างไรเมื่อได้รับหมายให้ไปเป็นพยานศาล อย่าเพิ่งตกใจ ถ้าคุณได้รับหมายเรียกให้ไปเป็นพยานศาล JusThat ได้นำข้อมูล หลักการปฏิบัติตัวในฐานะพยานศ
รับช่วงสิทธิ คืออะไร รับช่วงสิทธิ คืออะไร มีความสัมพันระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้อย่างไร JusThat จะพาไปหาคำตอบและทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้เลย
Bangkok, Thailand
Line @justhatapp
Bangkok, Thailand
Line @justhatapp