กู้ยืมเงินกันแล้วต่อมาเกิดปัญหาผิดใจกัน ฝั่งเจ้าหนี้ก็อยากได้เงินที่ให้กู้ยืมไปคืน แต่ยังไม่ครบกำหนดระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ แบบนี้เจ้าหนี้จะทวงก่อนครบกำหนดได้หรือไม่ บทความนี้ JusThat มีคำตอบ
สำหรับหนี้กู้ยืมเงินแบบไม่กำหนดระยะเวลา เจ้าหนี้จะทวงหนี้เมื่อไหร่ก็ได้ และลูกหนี้มีหน้าที่หาเงินมาจ่ายหนี้ให้กับเจ้าหนี้ทันทีเช่นกัน โดยจะให้ระยะเวลาหาเงินมาคืนหรือไม่ก็ได้ เช่น 7 วัน 15 วัน 30 วัน หรือให้คืนภายในวันที่ทวงเลยก็ทำได้หรือเจ้าหนี้ไม่ทวงและไปฟ้องศาลเลยก็สามารถทำได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 203 วรรค 1
ถ้าลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้กู้ยืมเงินภายในระยะเวลาที่เจ้าหนี้กำหนด จะถือว่าลูกหนี้ผิดนัดเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลานั้น หรือกรณีเจ้าไปฟ้องศาลเลยโดยไม่ได้ทวง จะถือว่าลูกหนี้ผิดนัดนับตั้งแต่วันฟ้อง ตามมาตรา 204 วรรค 1 เป็นผลให้เจ้าหนี้สามารถเรียกดอกเบี้ยผิดนัด ตามมาตรา 224 จากลูกหนี้ได้ด้วย
เพราะต่างฝ่ายต่างตกลงกันแล้วว่าจะใช้คืนกันเมื่อไหร่ เจ้าหนี้จึงทำได้เพียงรอให้ครบกำหนดระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ ถ้าครบกำหนดแล้วลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้ให้ตามที่ตกลงกันเจ้าหนี้จึงจะทวงถามได้ โดยจะทวงปากเปล่า หรือส่งโนติสไปทวงถามให้จ่ายหนี้ก็ทำได้ แต่ลูกหนี้สามารถจ่ายหนี้กู้ยืมเงินก่อนครบกำหนดระยะเวลาที่ตกลงกันได้ โดยจะจ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ ตามมาตรา 203 วรรค 2
มาตรา 203 ถ้าเวลาอันจะพึงชำระหนี้นั้นมิได้กำหนดลงไว้ หรือจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้ย่อมจะเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน และฝ่ายลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ของตนได้โดยพลันดุจกัน
ถ้าได้กำหนดเวลาไว้ แต่หากกรณีเป็นที่สงสัย ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าหนี้จะเรียกให้ชำระหนี้ก่อนถึงเวลานั้นหาได้ไม่ แต่ฝ่ายลูกหนี้จะชำระหนี้ก่อนกำหนดนั้นก็ได้
ถ้าลูกหนี้ไม่จ่ายภายในกำหนดจะถือว่าลูกหนี้เป็นฝ่ายผิดนัดทันที โดยที่เจ้าหนี้ไม่ต้องบอกกล่าวทวงถาม ตามมาตรา 204 วรรค 2 และทำให้เจ้าหนี้สามารถเรียกดอกเบี้ยผิดนัดได้ด้วย
มาตรา 204 ถ้าหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว และภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้ได้ให้คำเตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ไซร้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว
ถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน และลูกหนี้มิได้ชำระหนี้ตามกำหนดไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้องเตือนเลย วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนการชำระหนี้ ซึ่งได้กำหนดเวลาลงไว้อาจคำนวณนับได้โดยปฏิทินนับแต่วันที่ได้บอกกล่าว
หลังจากที่ส่งโนติสไปแล้วและให้ระยะเวลาหาเงินมาคืนพอสมควรแล้ว แต่ลูกหนี้ก็ยังไม่ยอมคืนเงินให้ ถ้าประจานลงสื่อโซเชี่ยลก็อาจโดนข้อหาหมิ่นประมาทได้ หรือจะไปข่มขู่เอาทรัพย์สินของลูกหนี้มาเลยก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ซ้ำยังจะทำให้ตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีอาญาในข้อหากรรโชกทรัพย์อีกด้วย
ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดตามกรอบของกฎหมายจึงเป็นการฟ้องคดีแพ่งต่อศาล เพื่อให้ศาลสั่งให้ลูกหนี้ชำระหนี้ จากนั้นเจ้าหนี้จะกลายเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่สามารถตั้งเรื่องบังคับคดีได้ภายใน 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งให้ชำระหนี้ โดยเจ้าหนี้จะสามารถตามยึดอายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ไปตลอดจนกว่าเจ้าหนี้จะได้รับชำระหนี้ครบ ในกรณีที่ลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้ให้
รู้หรือไม่?! คดีแบบนี้ฟ้องศาลด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องจ้างทนาย!
JusThat บริการฟ้องด้วยตัวเอง
ค่าบริการปรึกษาเริ่มต้น 1,500 บาท
ประหยัดค่าทนายความได้หลายหมื่นบาท
รู้ไว้ใช่ว่า เงินประกันชีวิตไม่ใช่มรดก ไม่ตกทอดสู่ทายาท ตั้งแต่คลอดออกมาและอยู่รอดเป็นทารก คนคนนั้นจะมีสภาพเป็นบุคคล เมื่อมีสภาพบุคคลแล้วจะมีกองทรัพย์
พยานหมาย ทำอย่างไรเมื่อได้รับหมายให้ไปเป็นพยานศาล อย่าเพิ่งตกใจ ถ้าคุณได้รับหมายเรียกให้ไปเป็นพยานศาล JusThat ได้นำข้อมูล หลักการปฏิบัติตัวในฐานะพยานศ
รับช่วงสิทธิ คืออะไร รับช่วงสิทธิ คืออะไร มีความสัมพันระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้อย่างไร JusThat จะพาไปหาคำตอบและทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้เลย
Bangkok, Thailand
Line @justhatapp
Bangkok, Thailand
Line @justhatapp
