เช่าสินสอด ถือเป็นการเช่าทรัพย์หรือกู้ยืมเงิน
เช่าสินสอด เป็นการเช่าทรัพย์หรือกู้ยืมเงิน “จะแต่งงานทั้งทีไม่มีสินสอดได้ยังไง” “แค่เอาสินสอดมาวางพอเป็นพิธี แต่งเสร็จแล้วพ่อแม่จะคื
กู้ยืมเงินไปแล้วก็ต้องคืน ไม่ว่าหนี้นั้นจะเป็นเงินกี่บาท จะกำหนดระยะเวลาไว้ในสัญญากู้ยืมเงิน หรือไม่ได้กำหนดระยะเวลาเอาไว้ก็ตาม สุดท้ายแล้วลูกหนี้ก็มีหน้าที่ต้องคืนเงินที่ยืมมา ถ้าไม่คืนก็อาจโดนฟ้อง ถ้าเจ้าหนี้หมดหนทางที่จะทวงหนี้ได้แล้วจริง ๆ
สำหรับหนี้ที่กำหนดระยะเวลาคืนเอาไว้ การคิดดอกเบี้ยผิดนัดก็คงไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพราะรู้กันแน่นอนอยู่แล้วว่าวันกำหนดชำระหนี้คือวันไหน ถ้าไม่จ่ายภายในวันที่กำหนด ก็จะถือว่าลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ทันที โดยที่เจ้าหนี้ไม่ต้องบอกกล่าว หรือเตือนให้ลูกหนี้ทราบเลย หากทวงแล้วลูกหนี้ไม่ยอมจ่าย เจ้าหนี้ก็สามารถฟ้องศาลด้วยตัวเองและเรียกดอกเบี้ยผิดนัดได้ทั้งก่อนฟ้องและหลังฟ้อง
แต่กรณีที่เป็นหนี้กู้ยืมเงินไม่กำหนดระยะเวลา การคิดดอกเบี้ยผิดนัดจะแตกต่างกันออกไป เพราะไม่มีกำหนดเวลาไง ดังนั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ถ้าตราบใดที่เจ้าหนี้ไม่ทวงให้จ่าย ลูกหนี้ก็ยังไม่ใช่ผู้ผิดนัด เมื่อลูกหนี้ยังไม่ผิดนัด เจ้าหนี้ก็จะไม่สามารถเรียกดอกเบี้ยนัดจากลูกหนี้ได้
เพราะประมาลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 203 วรรคหนึ่ง วางหลักไว้ว่า เจ้าหนี้ย่อมจะเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน แปลว่าเมื่อทำสัญญากู้ยืมเงินประเภทนี้ขึ้นมาแล้ว เจ้าหนี้จะสามารถทวงหนี้ให้ลูกหนี้จ่ายหนี้ได้ตลอดเวลา และลูกหนี้ต้องหาเงินมาจ่ายให้เจ้าหนี้ทันทีตามเวลาที่เจ้าหนี้กำหนด
มาตรา 203 วรรคหนึ่ง ถ้าเวลาอันจะพึงชำระหนี้นั้นมิได้กำหนดลงไว้ หรือจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้ย่อมจะเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน และฝ่ายลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ของตนได้โดยพลันดุจกัน
แต่ลูกหนี้บางคนก็ไม่ได้จ่ายหนี้คืนง่ายขนาดนั้น แม้เจ้าหนี้จะส่งโนติสทวงถามให้จ่ายหนี้ และให้ระยะเวลาในการหาเงินมาคืนพอสมควรแล้ว ลูกหนี้ก็ยังไม่ยอมจ่าย ลูกหนี้จะตกเป็นผู้ผิดนัดเพราะเจ้าหนี้เตือนแล้วนับแต่วันที่พ้นกำหนดเวลาให้ชำระหนี้ในหนังสือบอกกล่าว ตามมาตรา 204 วรรคหนึ่ง
มาตรา 204 วรรคหนึ่ง ถ้าหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว และภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้ได้ให้คำเตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ไซร้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว
และหนทางสุดท้ายที่เจ้าหนี้จะทำได้ก็คือการฟ้องคดีแพ่งต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งบังคับให้ลูกหนี้จ่ายหนี้ให้ โดยเจ้าหนี้สามารถเรียกดอกเบี้ยผิดนัดนับตั้งแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัดจนถึงวันฟ้อง เรียกว่า ดอกเบี้ยก่อนฟ้อง และเรียกดอกผิดผิดนัดที่นับถัดจากวันฟ้องได้ด้วย เรียกว่า ดอกเบี้ยหลังฟ้อง หรือ ดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้อง
กรณีเจ้าหนี้ไม่ได้บอกกล่าวทวงถามก่อนและฟ้องศาลเลย จะถือว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดนับแต่วันฟ้อง เจ้าหนี้จึงคิดดอกเบี้ยผิดนัดได้นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไป แต่ไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยผิดนัดก่อนวันฟ้อง เพราะลูกหนี้ยังไม่ตกเป็นผู้ผิดนัดในช่วงเวลาก่อนฟ้องนั่นเอง
อายุความฟ้องหนี้กู้ยืมเงินที่ไม่กำหนดระยะเวลา ต้องเริ่มนับแต่วันถัดจากวันทำสัญญากู้ยืมเงิน โดยมีกำหนดอายุความ 10 ปี
รู้หรือไม่?! คดีแบบนี้ฟ้องศาลด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องจ้างทนาย!
JusThat บริการฟ้องด้วยตัวเอง
ค่าบริการปรึกษาเริ่มต้น 1,500 บาท
ประหยัดค่าทนายความได้หลายหมื่นบาท
เช่าสินสอด เป็นการเช่าทรัพย์หรือกู้ยืมเงิน “จะแต่งงานทั้งทีไม่มีสินสอดได้ยังไง” “แค่เอาสินสอดมาวางพอเป็นพิธี แต่งเสร็จแล้วพ่อแม่จะคื
นิติบุคคล คือใคร ในทางกฎหมายเราจะแบ่งบุคคลออกได้ 2 แบบ คือ 1. บุคคลธรรมดา 2. นิติบุคคล และสำหรับบทความนี้ JusThat จะพาทุกคนมารู้จักกับนิติบุคคล นิติบุ
บุคคลธรรมดา คือใคร ในทางกฎหมายเราจะแบ่งบุคคลออกได้ 2 แบบ คือ 1. บุคคลธรรมดา 2. นิติบุคคล และสำหรับบทความนี้ JusThat จะพาทุกคนมารู้จักกับบุคคลธรรมดา บุ
Bangkok, Thailand
Line @justhatapp
Bangkok, Thailand
Line @justhatapp